นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "นโยบาย" บังคับใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 คำนิยาม
ภายในนโยบายฉบับนี้
(ก) "เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน" หมายความว่า เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ชื่อว่า Rocket8 และมีที่อยู่เว็บไซต์ที่ https://www.rocket8.co.th https://www.rocket8.co.th
(ข) "ผู้ควบคุมข้อมูล" หมายความว่า ผู้ให้บริการหรือเจ้าของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ตามนโยบายฉบับนี้ อันได้แก่ บริษัท ร็อคเก็ต8 จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “เรา” หรือ “บริษัท”) ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105564171348 สำนักงานตั้งอยู่ที่ 48/27 ซอยรุ่งเรือง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 ติดต่อ โทรศัพท์ : 065-9824435 e-mail : [email protected]
(ค) "ผู้ประมวลผลข้อมูล" หมายความว่า บุคคลภายนอกซึ่งประมวลข้อมูลเพื่อประโยชน์หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูล
(ง) "ข้อมูล" หมายความว่า สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดๆ ไม่ว่าการสื่อความหมายนั้นจะทำได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเองหรือโดยผ่านวิธีการใดๆ และไม่ว่าจะได้จัดทำไว้ในรูปของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพหรือเสียง การบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏได้
(จ) "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาใดๆ ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
(ฉ) "ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว" หรือ "Sensitive Data" หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ พันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ม่านตา หรือลายนิ้วมือ ข้อมูลสหภาพแรงงาน หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ประกาศให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
(ช) "ผู้ใช้งาน" หมายความว่า ท่าน ผู้เยี่ยมชม ผู้ใช้ ผู้เป็นสมาชิกของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้
ข้อ 2 ความยินยอมของผู้ใช้งาน
ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ผู้ใช้งานตกลงและให้ความยินยอมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศเนื่องจากทางเว็บไซต์ มีการใช้งานระบบคลาวด์ที่อยู่ต่างประเทศ เราจึงต้องเก็บรวบรวมข้อมูล ดังต่อไปนี้
(ก) วัตถุประสงค์แห่งการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้เท่านั้น
- ใช้งานเว็บไซต์ rocket8.co.th หรือ แอพพลิเคชัน Rocket8
- การสร้างใบปะหน้าส่งสินค้า
- การออกเอกสาร ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี
- ยืนยันตัวบุคคลผู้รับบริการ
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยรวมถึงการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ดังต่อไปนี้เท่านั้น
- ชื่อ-นามสกุล เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน
- ข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์เพื่อใช้ในการลงชื่อเข้าใช้งานระบบ เช่นบัญชี Facebook, Apple หรือ Google
- ข้อมูลในการติดต่อ เช่น ที่อยู่ต้นทาง ปลางทาง เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์
- ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร หน้าบัญชีธนาคาร ยอดเก็บเงินปลายทาง ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี
- การลงทะเบียนหรือการสมัครใช้งานแพลตฟอร์มของเรา
- การสนทนาในรูปแบบต่างๆ ระหว่างท่านกับเราเพื่อสอบถามข้อมูล การบริการ หรือการช่วยเหลือ
- การเคลมพัสดุ หรือการติดตามพัสดุ
- การใช้งานและการเยี่ยมชมของท่านผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเรา รวมถึงการใช้คุกกี้หรือโปรแกรม tracking อื่นๆ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- แบบสำรวจความเห็นของท่าน
- การเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมการขายของบริษัท
(ค) ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศเป็นระยะเวลาที่จำเป็นและเป็นระบบเวลา 10 ปีนับจากวันที่ไม่ได้ใช้บริการกับเราแล้ว
(ง) การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม
ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สามเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้และ/หรือตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อ 3 การเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันกับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม
ผู้ใช้งานรับทราบ ตกลง และยินยอมให้ผู้ควบคุมข้อมูลอาจการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันกับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม โดยในการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันข้อมูลต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สามในแต่ละคราว ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบว่าข้อมูลของผู้ใช้งานใดที่จะถูกเชื่อมโยงหรือแบ่งปันแก่ผู้ให้บริการบุคคลที่สาม ทั้งนี้ เมื่อผู้ใช้งานได้แสดงเจตนาโดยชัดแจ้งในการอนุญาตให้มีการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันดังกล่าวนั้น อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การกดยอมรับ อนุญาต เชื่อมโยง แบ่งปันหรือการกระทำใดๆ อันมีลักษณะโดยชัดแจ้งว่าผู้ใช้งานได้ยินยอมในการเชื่อมโยงหรือแบ่งปันข้อมูลต่อผู้ให้บริการบุคคลที่สามนั้น
ข้อ 4 การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของผู้ใช้งาน
ผู้ใช้งานรับทราบ ยินยอม และตกลงให้ผู้ควบคุมข้อมูลอาจใช้ระบบและ/หรือเทคโนโลยีดังต่อไปนี้ในการติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของผู้ใช้งาน
Cookie หรือ โปรแกรม Tracking อื่นๆ
ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังระบุต่อไปนี้เท่านั้น
ใช้งานคุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกันเพื่อการเข้าสู่ระบบของท่านอย่างต่อเนื่อง การรักษาความปลอดภัย การพัฒนาการให้บริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพ การประเมินการใช้บริการของท่าน และการวิเคราะห์เชิงสถิติ
ข้อ 5 การถอนความยินยอมของผู้ใช้งาน
ผู้ใช้งานรับทราบว่าผู้ใช้งานมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมใดๆ ที่ผู้ใช้งานได้ให้ไว้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลตามนโยบายฉบับนี้ได้ ไม่ว่าเวลาใดโดยการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรผ่าน [email protected]
โดยผู้ใช้งานยังรับทราบอีกว่าเมื่อผู้ใช้งานได้ดำเนินการถอนความยินยอมแล้ว ผู้ใช้งานจะได้รับผลกระทบ ดังต่อไปนี้
- ไม่สามารถใช้บริการแพลตฟอร์ม Rocket8 ได้
- ไม่สามาถสร้างออเดอร์และพิมพ์ใบปะหน้าส่งสินค้า
- ไม่สามารถถอนเงิน Cash on delivery (COD)
โดยที่ ผู้ใช้งานยังได้ตกลงยอมรับซึ่งผลแห่งการถอนความยินยอมนั้นทั้งสิ้น
ข้อ 6 บัญชีผู้ใช้
ในการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ผู้ควบคุมข้อมูลอาจจัดให้มีบัญชีผู้ใช้ของแต่ละผู้ใช้งานเพื่อการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โดยที่ผู้ควบคุมข้อมูลมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการอนุมัติเปิดบัญชีผู้ใช้ กำหนดประเภทบัญชีผู้ใช้ กำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละประเภทบัญชีผู้ใช้ สิทธิการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ค่าใช้จ่ายใดๆ เกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ใช้งานซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้นั้นๆ
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานตกลงจะเก็บรักษาชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่าน และข้อมูลใดๆ ของตนไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด และตกลงจะไม่ยินยอมให้ รวมถึงใช้ความพยายามอย่างที่สุดในการป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้งานบัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้งาน
ในกรณีที่มีการใช้บัญชีผู้ใช้ของผู้ใช้งานโดยบุคคลอื่น ผู้ใช้งานตกลงและรับรองว่าการใช้งานโดยบุคคลอื่นดังกล่าวได้กระทำในฐานะตัวแทนของผู้ใช้งานและมีผลผูกพันเสมือนหนึ่งผู้ใช้งานเป็นผู้กระทำการเองทั้งสิ้น
ข้อ 7 สิทธิของผู้ใช้งาน
ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันตามนโยบายฉบับนี้และการให้ความยินยอมใดๆ ตามนโยบายฉบับนี้ ผู้ใช้งานได้รับทราบถึงสิทธิของตนในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างดีแล้ว อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสิทธิของผู้ใช้งาน ดังต่อไปนี้
(ก) ผู้ใช้งานอาจถอนความยินยอมที่ให้ไว้ตามนโยบายฉบับนี้เมื่อใดก็ได้ โดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้ควบคุมข้อมูลตามวิธีและช่องทางที่กำหนดในนโยบายฉบับนี้
(ข) ผู้ใช้งานมีสิทธิการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนที่ผู้ควบคุมข้อมูลได้เก็บรวบรวมเอาไว้ตามนโยบายฉบับนี้
(ค) ผู้ใช้งานมีสิทธิได้รับการเปิดเผยจากผู้ควบคุมข้อมูลถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนซึ่งตนไม่ได้ให้ความยินยอม หากว่ามีกรณีเช่นว่า
(ง) ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น รวมถึงการขอรับข้อมูลที่ได้ส่งหรือโอนดังกล่าวโดยตรงจากผู้ควบคุมข้อมูลที่ส่งหรือโอนข้อมูลนั้นด้วย
(จ) ผู้ใช้งานอาจคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนหรือที่เกี่ยวข้องกับตนได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานด้วยความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือของบุคคลอื่นซึ่งผู้ใช้งานอาจพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล
(2) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลซึ่งผู้ใช้งานอาจพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าผู้ควบคุมข้อมูล
(3) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
(4) ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ โดยที่การศึกษาวิจัยนั้นไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะ
(ฉ) ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(2) เมื่อผู้ใช้งานซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นและผู้ควบคุมข้อมูลนั้นไม่มีอำนาจอื่นตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้อีกต่อไป
(3) เมื่อผู้ใช้งานได้คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
(4) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(ช) ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยยังคงเก็บรักษาเอาไว้ได้อยู่ ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ผู้ควบคุมข้อมูลอยู่ในระหว่างการถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้งานได้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบดังกล่าว
(2) ข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(3) ในกรณีที่ผู้ใช้งานมีความจำเป็นต้องการให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอาไว้เพื่อประโยชน์ในสิทธิเรียกร้องของผู้ใช้งานเอง อันได้แก่ การก่อสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของผู้ใช้งาน การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ผู้ใช้งานอาจให้ผู้ควบคุมข้อมูลเพียงระงับการใช้ข้อมูลแทนการดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้
(4) ผู้ควบคุมข้อมูลอยู่ในระหว่างการพิสูจน์หรือตรวจสอบเพื่อปฏิเสธการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้งานได้คัดค้านโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น
(ซ) เมื่อผู้ใช้งานพบเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานผิด ล้าหลัง ไม่ชัดเชน ผู้ใช้งานมีสิทธิให้ผู้ควบคุมข้อมูลดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
(ฌ) ผู้ใช้งานอาจร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่เกี่ยวกับการกระทำการฝ่าฝืนหรือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูล
ข้อ 8 การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ด้วยมาตรการ มาตรฐาน เทคโนโลยีและ/หรือด้วยระบบ ดังต่อไปนี้
(ก) จัดให้มีการใช้ Secure Socket Layer (SSL) protocol
(ข) เปิดให้มีการชื่อเข้าใช้งานแบบ 2 ขั้นโดยต้องยืนยันการเข้าระบบด้วยด้วยรหัสผ่านครั้งเดียว (One-Time Password) ผ่าน SMS อีกครั้ง
ข้อ 9 การแก้ไขปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ควบคุมข้อมูลจะจัดให้มีระบบและมาตรการตรวจสอบ ดังต่อไปนี้
(ก) ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(ข) ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกินระยะเวลาเก็บรวบรวมที่ผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมเอาไว้ และ
(ค) ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามที่ผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมเอาไว้
ข้อ 10 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ใช้งานรับทราบและตกลงว่าผู้ควบคุมข้อมูลอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้งานได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้เท่าที่จำเป็นและตราบเท่าที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น
(ก) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน
(ข) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลใดๆ
(ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญาดังกล่าวนั้น
(ง) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลนั้น
(จ) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือของบุคคลอื่นซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญมากกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนั้น
(ฉ) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูล
ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวรรคก่อนหน้าไว้เป็นสำคัญ
ข้อ 11 การเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)
ผู้ใช้งานรับทราบและตกลงว่านอกจากการเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้งให้เก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้แล้ว ผู้ควบคุมข้อมูลอาจเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ของผู้ใช้งานได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนล่วงหน้า ทั้งนี้เท่าที่จำเป็นและตราบเท่าที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น
(ก) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
(ข) เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตาม การใช้หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(ง) เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันเกี่ยวกับ
(1) เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบและการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์
(2) ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร หรือการควบคุมมาตรฐานหรือคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมและเจาะจงเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่หรือตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
(3) การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหรือการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งการเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลหรือผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูล โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(4) การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น ทั้งนี้ ด้วยการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพียงเท่าที่จำเป็นและได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ประกาศกำหนด
(5) ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
ทั้งนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานตามวรรคก่อนหน้าไว้เป็นสำคัญ
ข้อ 12 การใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบุคคลซึ่งอยู่ในความปกครอง อนุบาล หรือพิทักษ์ของผู้ใช้งาน
ผู้ใช้งานรับรองว่าจะตนไม่ใช่และจะไม่ยินยอมให้บุคคลซึ่งมีลักษณะ ดังต่อไปนี้ เยี่ยมชม ใช้งาน หรือเป็นสมาชิกของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
(ก) คนไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความอนุบาลของผู้ใช้งาน
(ข) คนเสมือนไร้ความสามารถซึ่งอยู่ในความพิทักษ์ของผู้ใช้งาน
ในกรณีที่ผู้ใช้งานยินยอมให้บุคคลลักษณะดังกล่าวข้างต้นเยี่ยมชม ใช้งาน หรือเป็นสมาชิกของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ผู้ใช้งานตกลงให้ถือว่าผู้ใช้งานได้ใช้อำนาจปกครอง อนุบาล หรือพิทักษ์ของบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี ในการตกลงและให้ความยินยอมตามนโยบายฉบับนี้ทั้งสิ้นเพื่อและในนามของบุคคลดังกล่าวด้วย
ข้อ 13 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ผู้ควบคุมข้อมูลอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไปยังต่างประเทศได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(ก) ประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(ข) ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่ผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับแจ้งและรับทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลนั้นแล้ว
(ค) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
(ง) เป็นการจำเป็นเพื่อกาองผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการเข้ารปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญานั้นหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอขทำสัญญานั้น
(จ) เป็นการกระทำการตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลกับบุคคลอื่นโดยเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(ฉ) เพื่อป้องกับหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหรือบุคคลใดๆ เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
(ช) เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
ข้อ 14 การแจ้งเตือนเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลทราบถึงการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะมีการละเมิดโดยบุคคลใด ผู้ควบคุมข้อมูลจะดำเนินการดังต่อไปนี้
(ก) ในกรณีมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถกระทำได้ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ
(ข) ในกรณีมีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบอย่างสูงต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลใดๆ ผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและแนวทางการเยียวยาต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและต่อผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยไม่ชักช้าเท่าที่จะสามารถกระทำได้ภายใน 72 (เจ็ดสิบสอง) ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ
ข้อ 15 การร้องเรียนและการแจ้งปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ใช้งานอาจร้องเรียนและรายงานปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลแก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและ/หรือให้ถูกต้อง การคัดค้านการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือระงับการใช้ข้อมูล ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท ร็อคเก็ต8 จำกัด (สำนักงานใหญ่)
48/27 ซอยรุ่งเรือง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์ https://www.rocket8.co.th
โทรศัพท์ 065-9824435
ข้อ 16 การบันทึกรายการสำคัญ
เว้นแต่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะกำหนดให้สิทธิผู้ควบคุมข้อมูลไว้เป็นเป็นอย่างอื่น ผู้ควบคุมข้อมูลจะบันทึกรายการสำคัญเกี่ยวกับการจัดเก็บ การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการตรวจสอบจากผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลหรือจากหน่วยงานของรัฐ อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงรายการ ดังต่อไปนี้
(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
(ข) วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท
(ค) ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูล
(ง) ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
(จ) สิทธิและวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและเงื่อนไขในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(ฉ) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูล
(ช) การปฏิเสธคำขอและการคัดค้านต่างๆ
(ซ) รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 17 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย
ผู้ควบคุมข้อมูลอาจแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อความในนโยบายฉบับนี้ได้ ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม และไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยผู้ควบคุมข้อมูลจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราวเพื่อให้ผู้ใช้งานได้พิจารณาและดำเนินการยอมรับด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด และหากว่าผู้ใช้งานได้ดำเนินการเพื่อยอมรับนั้นแล้วให้ถือว่านโยบายที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายฉบับนี้ด้วย
ข้อ 18 ความสัมพันธ์ของคู่สัญญา
โดยที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเข้าใจและทราบดีว่า การเข้าทำนโยบายฉบับนี้ไม่ทำให้คู่สัญญาและพนักงานของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายมีความสัมพันธ์ในฐานะเป็นลูกจ้างตามกฎหมายแรงงานหรือเป็นหุ้นส่วนกันตามกฎหมายหุ้นส่วนและบริษัทแต่อย่างใด
ข้อ 19 การโอนสิทธิ
เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นอย่างชัดแจ้งในนโยบายฉบับนี้ คู่สัญญาตกลงจะไม่โอนสิทธิ หน้าที่ และ/หรือความรับผิดตามนโยบายฉบับนี้ให้แก่บุคคลใดโดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเป็นการล่วงหน้าก่อน
ข้อ 20 การสละสิทธิ
การที่ผู้ควบคุมข้อมูลไม่ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิล่าช้าในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใดก็ดี มิให้ถือว่าผู้ควบคุมข้อมูลสละสิทธิในเรื่องดังกล่าว และการที่ผู้ควบคุมข้อมูลใช้สิทธิแต่เพียงบางส่วนหรือสละสิทธิในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือคราวหนึ่งคราวใด ก็มิให้ถือว่าเป็นการสละสิทธิในเรื่องอื่นหรือในคราวอื่นด้วย
ข้อ 21 การแยกส่วนของนโยบาย
หากมีข้อความหรือข้อตกลงใดในนโยบายฉบับนี้ที่ตกเป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม คู่สัญญาตกลงให้ข้อความและข้อตกลงอื่นๆ ในนโยบายฉบับนี้ยังคงมีผลสมบูรณ์และผูกพันคู่สัญญาอยู่เสมือนหนึ่งว่าไม่มีส่วนที่เป็นโมฆะ ไม่สมบูรณ์ หรือไม่มีผลบังคับใช้นั้นอยู่ในนโยบายฉบับนี้
ข้อ 22 กฎหมายที่ใช้บังคับ
นโยบายฉบับนี้ให้อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายของประเทศไทย
ข้อ 23 การระงับข้อพิพาท
หากมีข้อโต้เถียง ข้อขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากนโยบายฉบับนี้ หากคู่สัญญาไม่สามารถตกลงกันได้ คู่สัญญาตกลงจะนำข้อพิพาทดังกล่าวขึ้นฟ้องต่อศาลในประเทศไทย
แพลตฟอร์ม Rocket8 คือ แพลตฟอร์มสำหรับการส่งพัสดุที่มีการรวมผู้ให้บริกรจัดส่งสินค้าเข้ามาไว้ที่จุดเดียว เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเปรียบเทียบราคา และเรทค่าเก็บเงินค่าสินค้าปลายทาง (Cash on Delivery)
1. เงื่อนไขการใช้บริการของบริษัท ร็อคเก็ต8 จำกัด ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายอันพึ่งต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการ
2. คำจำกัดความ
(ก) “ผู้ให้บริการ” หมายถึง บริษัท ร็อคเก็ต8 จำกัด ในชื่อของ เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น “Rocket 8” หรือผ่านตัวแทนในรูปแบบต่างๆ
(ข) “ผู้ใช้บริการ” หมายถึง บุคคลที่สมัครเข้าใช้บริการผ่านเว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างออเดอร์ขนส่งและพิมพ์ใบปะหน้าส่งพัสดุ
(ค) “เงื่อนไขการใช้บริการ” หมายถึง ข้อตกลง ข้อกำหนด ข้อสัญญา หรือชื่ออื่นใดที่มีลักษณะแบบเดียวกัน เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
(ง) “การให้บริการ” หมายถึง การสร้างออเดอร์ส่งสินค้า การพิมพ์ใบปะหน้า การเก็บเงินปลายทาง
(จ) “ข้อมูล” หมายถึง ข้อมูลใดๆที่ผู้ใช้บริการหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้ใช้บริการให้ทำการแทนได้ให้ไว้แก่ทาแพลตฟอร์ม
(ฉ) “ค่าบริการ” หมายถึง ค่าบริการขนส่งที่ผู้ใช้บริการตกลงยินยอมตามที่ผู้ให้บริการเรียกเก็บ โดยค่าบริการจะมีทั้งค่าจัดสิ่งสินค้าและค่าบริการเก็บเงินปลายทาง
(ช) “ตัวแทน” หมายถึง บุคคลและหรือนิติบุคคลใดก็ตาม หรือชื่ออื่นใดอันมีความหมายเดียวกัน ที่ได้รับอนุญาติและหรือได้รับแต่งตั้งให้สามารถนำระบบทั้งหมดหรือบางส่วนไปใช้ของ Rocket 8
3. การสมัครและเข้าใช้บริการถือว่า ผู้ใช้บริการยอมรับ เงื่อนไขการใช้บริการและนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เงื่อนไขการใช้บริการฉบับนี้มีผลผูกพันผู้ใช้บริการตามกฏหมาย
4. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ไม่ให้บริการขนส่งดังต่อไปนี้
(ก) สัตว์มีชีวิต
(ข) สิ่งเสพติด
(ค) สิ่งลามกอนาจาร หรือสิ่งที่มีถ้อยคำ เครื่องหมาย ลวดลาย หยาบช้า
(ง) วัตถุไวไฟ
(จ) วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อ ป้องกัน
(ฉ) สิ่งที่อาจทำให้เกิดอันตรายแก่เจ้าพนักงาน
(ช) สิ่งของละเมิดลิขสิทธิ์
การขอสงวนสิทธิ์ไม่ให้บริการขนส่ง นอกเหนือจากข้างต้นนั้น ผู้ให้บริการจะแจ้งให้ทราบเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
5. ผู้ใช้บริการต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริงทุกประการแก่ผู้ให้บริการ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการขนส่งในบางกรณีผู้ให้บริการ อาจร้องขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อมูลต่างๆและผู้ใช้บริการยอมรับที่ต้องปฎิบัติตามคำร้องขอ
6. ผู้ให้บริการไม่อนุญาติให้นำเข้าและหรือส่งออกซึ่งข้อมูลใดๆ และ หรือเอกสารใดๆเข้ามาในเวบไซด์โดยประการที่อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่อุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ หรือ ซอฟท์แวร์ อันเป็นความผิดตามกฎหมาย
7. ผู้ใช้บริการต้องไม่พยายามหรือกระทำการใดๆที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบเน็ตเวิร์ค ซึ่งหมายรวมถึงการกระทำผิดใดๆตามที่กฎหมายกำหนด
8. หากผู้ใช้บริการกำหนดให้บุคคลภายนอกซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการดูแลจัดการบัญชีของท่าน ผู้ให้บริการจะถือว่าการปฏิบัติของบุคคลภายนอกดังกล่าวคือการปฏิบัติของผู้ใช้บริการ หากการปฏิบัติของบุคคลดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายหรือการเสียผลประโยชน์แก่ท่าน ผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
9. ผู้ให้บริการไม่อนุญาติให้ผู้ใช้บริการโอนสิทธิและหน้าที่ภายใต้ข้อตกลง เงื่อนไขการใช้บริการ และนโยบายความเป็นส่วนตัวแก่บุคคลและหรือนิติบุคคลอื่น โดยเด็ดขาด
10. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ จะไม่เปิดเผยความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกหรือองค์กรอื่นใดไม่ว่าเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ เว้นแต่
(ก) ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ
(ข) กระทำการตามที่กฎหมายบังคับ และหรือตามคำสั่งหรือหมายของศาล เป็นต้น
(ค) เป็นไปตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว
11. ผู้ให้บริการ มีซึ่งสิทธิ ลิขสิทธิ์ และ ทรัพย์สินทางปัญญาในข้อมูลที่แสดง รูปภาพ และ รูปแบบการแสดงผล ตามที่ปรากฏในเว็บไซต์ทั้งหมด ยกเว้นจะมีการระบุอย่างชัดเจนเป็นอื่น ห้ามมิให้ผู้ใดทำการคัดลอก ทำซ้ำ มีสำเนา สำรองไว้ ทำเลียนแบบ ทำเหมือน ดัดแปลง ทำเพิ่ม เพื่อนำไปเผยแพร่ด้วยวัตถุประสงค์อื่นใด โดยปราศจากความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้บริการ ทั้งนี้เว้นแต่จะได้มีการระบุกำหนดไว้ในข้อตกลง เงื่อนไขการใช้บริการ และนโยบายความเป็นส่วนตัว
12. ผู้ให้บริการ สามารถนำข้อมูลใดๆก็ตามที่ผู้ใช้บริการให้กับผู้ให้บริการ โดยผ่าน Rocket 8 ไปใช้ในการวิจัย วิเคราะห์ แยกแยะ และหรืออื่นใด ตามที่เห็นสมควร โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ต้องเป็นข้อมูลที่ผู้ใช้บริการยินยอมให้ใช้ตามข้อตกลง เงื่อนไขการใช้บริการ และนโยบายความเป็นส่วนตัว
13. ผู้ให้บริการ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าบริการในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการยกเลิกใช้บริการ หรือปรับลดบริการลง ก่อนครบกำหนดสัญญา และผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิ์เรียกค่าบริการคืน ไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดได้ เว้นแต่ทางผู้ให้บริการจะเป็นผู้ยกเลิกบริการเอง โดยจะคืนค่าบริการตามสมควรให้เท่านั้น หากมีการละเมิดข้อตกลงดังกล่าวผู้ให้บริการจะแจ้งเตือน และจะหยุดให้บริการหากผู้ใช้บริการไม่ทำการแก้ไขให้ถูกต้อง และผู้ใช้บริการจะไม่สามารถเรียกร้องสิทธิ์ในการคืนเงินได้ และหากเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อ ระบบ เครือข่าย และชื่อเสียงของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการจะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด กรณี ผู้ใช้บริการเกิดปัญหาในการใช้งาน ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อผู้ให้บริการทาง email : [email protected] หรือหมายเลขโทรศัพท์ 065-9824435 ในเวลาทำการ วัน จันทร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 18.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
14. ผู้ให้บริการ สามารถระงับการใช้บริการแก่ผู้ใช้บริการใดๆ ตามเห็นสมควรได้ ถึงแม้ว่าผู้ใช้บริการจะไม่ได้ละเมิดข้อตกลง เงื่อนไขการใช้การบริการ และนโยบายความเป็นส่วนตัวใดๆก็ตาม โดยผู้ให้บริการจะคืนค่าบริการตามจริงเฉพาะที่ยังไม่ได้ใช้งานเท่านั้น ทั้งนี้งให้เป็นไปตามเงื่อนไขของค่าบริการที่ผู้ให้บริการกำหนดไว้ และผู้ใช้บริการไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าบริการที่ผู้ใช้บริการได้ชำระกับผู้ให้บริการแล้วเท่านั้น
15. เมื่อผู้รับบริการเปลี่ยนอัตราค่าขนส่งเป็นอัตราพิเศษเงินโบนัสในกระเป๋าจะถูกตัดทิ้ง
16. ผู้รับบริการต้องเป็นผู้กดถอนเงินค่าสินค้าแบบเก็บเงินปลายทางเอง โดยมีการคิดค่าถอนเงิน 20 บาทต่อครั้ง และหากมีเงินเกิน 100 บาทเมื่อสิ้นเดือนระบบจะโอนเงินให้ลูกค้าโดยหักค่าถอนเงิน 20 บาทอัตโนมัติ
17. หากผู้รับบริการเป็นนิติบุคคล แพลตฟอร์มจะคำนวณและหักภาษี ณ ที่จ่าย ไว้ 1 เปอร์เซ็นในกรณีเป็นค่าส่งสินค้าและ หัก 3% ในกรณีเป็นค่าบริการเก็บเงินปลายทาง
18. ค่าบริการเก็บเงินปลายทางจะถูกหักจากเงินที่โอนเงินให้ลูกค้า
19. ผู้ให้บริการ อาจระงับการให้บริการเป็นการชั่วคราว ด้วยเหตุจำเป็นบางประการ และในกรณีที่มีการระงับบริการประเภทที่มีค่าบริการ ขอสงวนสิทธิในการไม่คืนค่าบริการสำหรับระยะเวลาที่ระงับบริการดังกล่าว และถือว่า ผู้ให้บริการไม่มีความรับผิดในการระงับบริการดังกล่าวไม่ว่าประการใด ซึ่งรวมถึงข้อบกพร่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า อันอาจจะเกิดจุดบกพร่องของอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ หรือสิ่งอื่นใดที่มีผลกระทบต่อการใช้บริการและให้บริการ
20. ผู้ให้บริการ ข้อแจ้งให้ทราบและเข้าใจ ดังนี้
(ก) ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆก็ตามที่เกิดจากการใช้บริการ หรือเกิดจากความบกพร่องของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้หากผู้ใช้บริการจำเป็นต้องชดใช้ค่าเสียหาย ผู้ให้บริการจำกัดความรับผิดต่อค่าเสียหายที่แท้จริงที่เกิดขึ้นไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท หรือตามที่ผู้ให้บริการขนส่งแต่ละบริษัทกำหนด
(ข) หากความเสียใดๆก็ตามที่ผู้ใช้บริการกระทำการ หรือจงใจกระทำการ หรือพยายามกระทำการไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม อันจะทำให้ผู้ให้บริการได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง หรือสิ่งใด ผู้ให้บริการมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย หรือฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายได้
(ค) ข้อกำหนด ข้อตกลง สัญญา หรือข้อความใดในเงื่อนไขการใช้บริการนี้ หากเป็นโมฆะหรือโมฆียะให้เป็นไปตามกฎหมายของไทยเท่านั้น ทั้งนี้ให้ยกเว้นส่วนที่ไม่ได้เป็นโมฆะหรือโมฆียะให้ใช้บังคับต่อไป
(ง) กรณีที่ข้อความใดๆมีความขัดหรือแย้งกัน ในฉบับภาษาไทยและฉบับแปลภาษาอื่นๆ ให้ถือตามฉบับภาษาไทยมีผลเหนือฉบับแปลภาษาอื่นๆ
(จ) การกระทำใดๆก็ตามที่มีผลต่อการใช้บริการของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ให้อยู่ภายใต้การบังคับของกฎหมายไทยเท่านั้น โดยไม่คำนึงสถานที่ตั้งของระบบ ข้อมูล และการใช้งาน รวมถึงกฎหรือบทบัญญัติว่าด้วยการเลือกกฎหมายหรือการขัดกันของกฎหมาย และให้ศาลในราชอาณาจักรไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจในการพิจารณาชี้ขาดตัดสินข้อพิพาทที่เกิดขึ้นภายใต้ ข้อตกลง เงื่อนไขการใช้บริการ และนโยบายความเป็นส่วนตัว
21. ผู้ให้บริการสามารถเปลี่ยนแปลง ข้อตกลง เงื่อนไขการใช้บริการ นโยบายความเป็นส่วนตัว ข้อกำหนด สัญญา และหรือชื่ออื่นใดอันมีความหมายเช่นเดียวกัน ในการให้บริการได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่มีความรับผิดใดๆต่อคู่สัญญาและบุคคลภายนอก
22. หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการระบุน้ำหนักไม่ถูกต้องทางบริษัทสามารถเรียกเก็บเงินส่วนต่างภายหลังได้ตามจริง โดยจะหักจากยอดกระเป๋าเงินในระบบ และหากเงินในกระเป๋าติดลบระบบ เมื่อมีการจ่ายค่าส่งสินค้าในครั้งหนัา จะนำส่วนที่ติดลบมาหักกับเงินโอนใหม่เสมอ